พิธีพระราชทานประริญญาบัตร 2554

วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

โรงถ่ายนเรศวร ตามรอย...นเรศวร ถึงโรงถ่ายทำภาพยนต์

     ... นเรศวร มหาราช
     ... พระมหากษัตริย์ ผู้พลิกชะตาสยามประเทศ  เรื่องราวของสยามประเทศ ย้อนหลังไปกว่า 400 ปี เรียนรู้กันในประวัติศาสตร์ แบบท่องจำกันมา แค่เพียงเอาไว้กาคำตอบที่ถูกต้อง ในข้อสอบ (บางทียังเลือก กาถูกทุกข้อเลย จริงๆนะ ) โดยไม่ได้เข้าใจ หรือคิดจะศึกษากันอย่างจริงจัง กลับมาเจอเรื่องราวประวัติศาสตร์ผ่านตาแวปๆ ก็ได้แต่คิดว่า อืม...พอรู้จัก เคยเรียนมา แต่ห้ามขอความเห็น หรือให้ขยายความ....มันปวดหัว

     แล้ว...ปรากฏการ Talk of the town อันจุดประกาย กระหายให้เข้าถึงรากเหง้า ให้สืบค้นประวัติศาสตร์ ก็บังเกิดขึ้น  .... ครั้งแรกย้อนหลังไป 5-6 ปี เกิดปรากฎการณ์ ...สุริโยทัย ไม่น่าเชื่อว่ามัน ทำให้คนไทย อยากรู้จักตัวเองมากขึ้น   .... ครั้งที่สอง 2549 -50 ปีนี้ จาก... ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และจะเป็นกระแส ต่อเนื่องยาวนาน ได้อีกถึงปีหน้า จนกว่าหนังไตรภาค ได้ออกฉาย จากนั้นกระแสจะ แผ่วไปตามวัฐจักร แต่อย่างไรการจุดประกายนี้ จะมีผลกับคน จำนวนมาก ที่จะเรียนรู้สืบค้น ต่อยอดการเรียนรู้ อีกต่อๆไป หรืออย่างน้อย คนจำนวนมากใน สยามประเทศ ก็ได้รู้จักตัวเอง รู้จักประวัติศาสตร์ เข้าใจ สิ่งต่างๆรอบตัว อันเป็นปัจจัยให้ก่อเกิด และกำหนดให้เป็นไป ภาพที่ อลังการ สร้างความตะลึง เพลินกับการมองประวัติศาสตร์ผ่านจอภาพยนตร์ วันนี้เราสามารถ เข้าชม เบื้องหลัง แห่งภาพมายา เหล่านั้นได้แล้ว โดยเข้าไปเที่ยวชม กองถ่าย ... ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งเปิดให้บุคคลทั่วไป เข้าชม ได้แล้วอย่างเป็นระบบ ..... ตามเข้ามา ได้เวลาไปชมกันแล้ว  ก่อนเข้าชม มารู้จัก แผนผังทางเดิน ของกองถ่ายทำภาพยนตร์ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชก่อน จะได้เดินให้ถูก ซ้าย ขวา จะได้รู้ ว่า จะไปอยู่กันตรงไหนบ้าง
กองถ่ายทำภาพยนตร์...ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภายใต้การก่อสร้าง และ บริหาร จัดการของ พร้อมมิตร ฟิล์ม สตูดิโอ (Prommitr Film Studio)  
      ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 1,500 ไร่ ในบริเวณกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ จังหวัด กาญจนบุรี ก่อสร้าง ด้วยงบประมาณกว่า 700 ล้านบาท ด้วยการศึกษาค้นคว้าข้อมูลอย่างเจาะลึก พร้อมงานออกแบบ และบรรจงสร้างทาง สถาปัตยกรรม และศิลปกรรม ที่ผู้เข้าชมสามารถเดินเที่ยวชมสถานที่การถ่ายทำภาพยนตร์ รวมถึงการร่วมกิจกรรมสนุกๆ และน่าประทับใจได้ตลอดทั้งวัน
แผนผัง กองถ่ายทำภาพยนตร์


                                          จุดที่ 1  จุดต้อนรับนักท่องเที่ยว                                   จุดที่ 7 พระที่นั่งสรรเพชรปราสาท
                                          จุดที่ 2 บริเวณวัดมหาเถรคันฉ่อง                                จุดที่ 8 กิจกรรมขี่ช้าง ม้า นั่งเกวียน
                                          จุดที่ 3 กำแพงเมืองหงสาวดี                                         จุดที่ 9 ท้องพระโรงหงสาวดี
                                          จุดที่ 4 นิทรรศการภาพถ่าย                                           จุดที่ 10 โรงเก็บอุปกรณ์ประกอบฉาก
                                          จุดที่ 5 สีหสาสนบัลลังก์                                                จุดที่ 11จุดจำหน่ายสินค้าของที่ระลึก
                                          จุดที่ 6 คุกใต้ดิน   
ทีนี้มาขยายความกันต่อ ว่ามันเป็นยังไงกัน จะได้จินตนาภาพ ออก แล้วกลับถึงบ้าน ก็อย่าลืมไปหยิบแผ่น CD DVD มาเปิดดู ภาพยนต์ ตามรอย ใหม่อีกรอบล่ะ จะได้รู้ซึ้งถึงคำว่า ... มายา

                                                                                                                                              จินตนาการที่เป็นจริง
           1. จุดต้อนรับนักท่องเที่ยว
       ก็เป็นธรรมเนียม ต้องเริ่มจากจุดนี้แหละ ที่สำคัญมันต้อง จ่ายสตางค์ ค่าเข้าชม ก่อน ผู้ใหญ่ 100 เด็ก 50 ถูกมากๆๆๆ ไปดูโรงถ่าย เมืองนอก ยังจ่ายตั้งหลายพัน แล้วอย่าลืมรับ แผนผังทางเดิน ชมวีดิทัศน์แนะนำสถานที่ก่อน
      ณ วันนี้จุดนี้ยังเป็นอาคารชั่วคราว เพราะเพิ่งเปิดให้เราคนธรรมดา เดินดินกินข้าวแกง เข้าชมได้ เมื่อวันที่ 5 เมษายน ที่ผ่านมานี่เอง แต่ไม่ต้องกังวล อาคารถาวรกำลังจะสร้างจ้า




ปืนใหญ่ ... อาวุธ สำคัญประกอบฉาก แค่ตัวอย่างเรียกน้ำย่อย


2.บริเวณวัดมหาเถรคันฉ่อง
       มีทั้ง โบสถ์วัดมหาเถรคันฉ่อง กุฏิวัด มหาเถรคันฉ่อง ห้องเก็บพระแสงปืนต้น ฉากสำคัญหลายฉาก ถ่ายทำที่นี่ จำไม่ผิด ฉากแรกก็ เป็นฉากเปิดตัว มหาเถรคันฉ่อง กำลังนั่งสมาธิ หน้าพระประธานองค์ใหญ่ แล้วพระนเรศ กับ เจ้าบุญทิ้ง เข้ามานมัสการ ตามบัญชา ของ บาเยงนองเจ้า แต่เจ้าบุญทิ้งปากพล่อยว่า เจอแต่พระแก่ นั่งหลับ เลยโดน ปากะโหลก ซะหนึ่งโป๊ก สบายไป

     จุดเด่นของที่นี่ เห็นจะเป็น พระประธาน องค์ใหญ่ที่สร้างได้ เหมือนพระหินอ่อนจริงๆ จนกลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประจำกองถ่ายทำ ที่ได้รับการสักการะอยู่ทุกวัน รวมทั้งการบวงสรวง ก่อนถ่ายทำฉากสำคัญ ทุกครั้งไป ... แต่ท่านสร้างจากอะไร ต้องไปสัมผัสกันเอาเอง 
อีกสิ่งหนึ่งคือ พระแสงปืนต้น กระบอกยาว ที่ นเรศวร ยิงข้ามแม่น้ำสะโตง ก็แสดงอยู่ที่นี่




3. กำแพงเมืองหงสาวดี 
       ถ้าปิดตาเดินเข้ามาจาก ทางเข้า แล้วเปิดตาที่นี่ จะเผลอ คิดว่ากำลังหยุดยืนอยู่ หน้ากำแพงพระราชวัง มัณฑะเลย์ ที่ เมืองมัณฑะเลย์ ในพม่า เลยเชียว เหมือนมากๆๆๆๆๆ ทั้งกำแพง คูเมือง และสะพานที่ทอดข้ามคูเมือง ข้ามสะพานนี้ ผ่านประตูเมือง ก็จะเข้าสู่ ฉากยิ่งใหญ่ ของอาณาจักรหงสาวดี
4.นิทรรศการแสดงภาพถ่าย

        เดินผ่านประตู เมืองหงสาวดี เข้ามา เจอสิงห์คู่ตัวยักษ์ ยืนโดดเด่นเป็นพนักงานต้อนรับ ถนนจากประตูเมืองทอดยาวถึง ท้องพระโรง ที่ตั้ง สีหสาสนบัลลังก์ แต่ระหว่างทาง ซ้ายขวา มีศาลาแสดงภาพถ่าย เป็นภาพนิ่งผลงานช่างภาพ ฝีมือเทพ คุณโอ ธนัตถ์ ที่ถ่ายภาพนิ่งของนักแสดง ในฉากภาพยนตร์ ... ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สวยงาม ประทับใจ อดถามไม่ได้ว่า นักแสดง ในภาพ ได้มีภาพของตัวไว้ชื่นชม เป็นสมบัติส่วนตัวด้วยหรือเปล่า เพราะสวยขาดจริงๆ ห้ามพลาด ต้องแวะชม ฝั่งซ้ายเป็น ภาพ นักแสดงชาย ฝั่งขวาเป็น ภาพนักแสดงหญิง
5. สีหสาสนบัลลังก์
     เดินต่อมาทักทาย สิงห์คู่ มูลค่า 7 ล้านบาท (คุณเจี๊ยบ วิทยากรอารมณ์ดี บอกว่าถ้าสนใจสั่งทำได้ ) แล้วก็มาถึงฉากสำคัญ อัน อลังการ สีหสาสนบัลลังก์ ท้องพระโรงใหญ่ เป็นฉากในภาพยนตร์ ที่เห็นในจอ เมื่อไหร่เป็นตื่นตาทุกครั้งไป ยิ่งเมื่อเหล่า กษัตริย์ ขุนนาง ออกฉาก แต่งตัวเต็มยศ มีเครื่องประกอบฉาก ครบถ้วน มันยิ่งงามจับใจ

                                                                                สีหสาสนบัลลังก์... ที่งามเหลือ                            
       ฉากท้องพระโรงนี้ ท่านมุ้ยทรงตามรอย ไปแกะแบบ จาก วัดชเวนันดอ มณเฑียรทอง ร่องรอยสุดท้าย ที่หลงเหลืออยู่ ของ พระราชวังมัณฑะเลย์ ที่ท่านทรง อนุมาณ ให้เป็นแบบของ พระราชวังบุเรงนอง ที่ปัจจุบันไม่เหลือต้นเค้า ให้เป็นแบบ

                   วิหาร ชเวนันดอร์ [Shwenandaw] โครงร่างเต็มๆ เพียงส่วนเล็กๆ ที่เหลืออยู่ ของ พระราชวัง มัณฑะเลย์
        ณ ที่นี้เป็นจุดบริการแห่งหนึ่ง ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าร่วมกิจกรรม จินตนาการตัวเองให้มีส่วนร่วมในฉากภาพยนตร์ โดยเลือก แต่งตัวอย่างตัวละคร แล้วถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก กับฉากในละครเลือกเคลิ้มกันตามใจ ว่าจะเป็นนเรศวร มณีจันทร์ ทั้งสาวไทย พม่า และมอญ ค่าบริการซื้อคูปอง คนละ 150 บาท ไม่แพงเลย เพราะได้รูปเป็นที่ระทึก 1 ใบ พร้อม CD บันทึกภาพตัวเอง เอาไปเปิด ระทึกใจ ต่อที่บ้านอีก 5 ภาพ จุดนี้ แหละ ดึงดูดสตางค์ และเวลา เป็นอย่างดี ถือเป็นการพัก หลบร้อนผ่อนคลายกันได้ช่วงหนึ่ง 


6. คุกใต้ดิน
อยู่ในอาคารเดียวกับ สีหสาสนบัลลังก์ สร้างอยู่ทางด้านขวา ฉากที่ชินตา ในภาพยนตร์ เห็นจะเป็น ตอนที่ เจ้าเมืองคัง รวมทั้งลูกสาว คือ เลอขิ่น และ บริวาร ถูกคุมขังอยู่ที่นี่ หลังจากที่ พระนเรศ รบชนะ เมืองคัง และกวาดต้อน เชลยมา

7. พระที่นั่งสรรเพชรปราสาท
   ฉากนี้เป็นท้องพระโรงฝ่ายไทย ซึ่งตัวพระที่นั่งตัวจริงปัจจุบันก็ไม่มีให้เห็นแล้ว ถูกเผาราบทำลาย ไม่เหลือซาก เมื่อคราวเสียกรุงครั้งที่ 2 ก็ลูกหลาน ท่านบาเยงนอง นั่นแหละนะ เผาซะราบ ไม่รู้แค้นเคืองเรื่องไร เป็นนักหนา อยากดูเป็นบุญตา คงต้องไปดูที่ เมืองโบราณ ที่ คุณเล็ก วิริยะพันธ์ ท่านพากเพียรค้นคว้า หาข้อมูลมาประกอบสร้าง จนเป็นรูปธรรมที่จับต้องได้ 

      นอกเรื่องมาซะไกล กลับสู่ ท้องพระโรงในฉากกันต่อ ฉากภายในที่สร้างขึ้น ก็คงไม่ยากเกินที่ ท่านมุ้ย ท่านจะประดิษฐ์ ออกมา เพราะ มีหลักฐานให้สืบค้น มีต้นแบบที่รัตนโกสินทร์ แม้จะไม่โดดเด่นอันอลังการ เท่าพระที่นั่งของทางฝ่าย พม่า แต่ก็วิจิตรไม่แพ้กัน ละเอียดอ่อนช้อยสมเป็นศิลปะ ของไทย แน่ล่ะนะ ที่ยังไงของไทยก็งามอยู่แล้ว  
     เหตุการณ์สำคัญๆในฉาก พระราชวังที่อยุธย ล้วนถ่ายทำที่นี่ ฉากที่ดูระทึก เห็นจะเป็นฉากที่ พระมหินทราธิราชทรงขึ้นครองราชย์ ต่อจาก พระมหาจักรพรรดิ์ ในห้วงของสงครามที่กำลังเข้มข้น พระราชพิธิ บรมราชาภิเษก ประกอบขึ้นท่ามกลาง เสียงปืนใหญ่ และความโกลาหล ของการศึกที่เข้ามาประชิด ถึงประตูวัง เรียกว่าสวมมงกุฎเสร็จ ก็จับดาบขึ้นประกับศัตรูได้ทันที ตื่นเต้น ระทึกใจได้อรรถรส ในการชม ภาพยนตร์ ดีจริงๆ 
    อีกสิ่งหนึ่งที่ดูจะเป็น สิ่งเล็กน้อย แต่ก็ได้รับการจำลองมาแสดง เป็นอุปกรณ์ประกอบฉาก ที่โดดเด่นสะดุดตานั่นก็คือ รูปปั้นทวารบาล หรือบางเสียงว่าเป็น พระอิศวรศิลปะขอม ที่เราไปยึดจากเขมร มาตั้งแต่สมัย   เจ้าสามพระยา คราวไปตี นครวัด แล้ว พม่า ลูกน้อง ท่านบุเรงนอง ก็มายกไป แล้วพวกยะไข่ ก็มาขนจากพม่าไปอีกที คราวมาตีเมืองหงสา เอาไปถวายเป็นเครื่องสักการะ พระมหามัยมุนี แล้วพระเจ้าปดุง กษัตริย์พม่า ในยุคต่อมาก็ไปตียะไข่ ขนเอาพระมหามัยมุนี พร้อมกับเครื่องสักการะ มาไว้ที่ อมรปุระธานีจนปัจจุบัน รูปปั้นนี้ ก็ยังมีอยู่ให้เห็นที่วัดมหามัยมุนี สมบัติผลัดกันชม มาช้านาน และน่าทึ่งที่ ท่านมุ้ย ท่านได้หยิบยกมาจำลอง ให้เห็นอยู่ในฉากด้วย


8. กิจกรรมขี่ช้าง ม้า นั่งเกวียน
        อีกจุด ใกล้กับ บริเวณ พระที่นั่งสรรพเพชรปราสาท ที่ให้นักท่องเที่ยว ได้ร่วมกิจกรรมทั้งช้าง ม้า หรือ เกวียนเทียมวัว ให้เลือกขี่ เป็นวิธี เดินทางไปยัง ท้องพระโรงหงสาวดี ฝ่ายใน ค่าบริการ ก็ตัวละ 300 บาท ม้า ก็ขี่ได้ 1 คน เป็นม้านักแสดง อาจอง สูงใหญ่ ไม่ใช่ ม้าแกลบ ตามชายหาด ช้าง ก็นั่งได้ 2 คน ถ้าเป็น เกวียน ก็นั่งได้ไม่เกิน 4 คน ไปหารเฉลี่ยค่าใช้จ่ายกันเอาเองก็แล้วกัน แต่ถ้าไม่เลือก สักอย่าง เค้าก็มีรถ กอล์ฟให้บริการ นั่งไปสบายๆ


กำแพงเมือง ฝ่ายไทย


     นั่งรถผ่านคู กำแพงประตู หอรบ ฝ่ายโยเดีย ก็ อยุธยาตามสำเนียงพม่า นั่นแหละ ผ่านหมู่บ้านจำลอง มีทั้งบ้านไพร่ เศรษฐี ถนนราดคอนกรีต อย่างดี จนอดถามไม่ได้ว่า เพิ่งมาเทราดหลังการถ่ายทำหรืออย่างไร ก็ได้รับการไขข้อสงสัย จากสารถี เสียงในฟิล์ม สำเนียงเมืองกาญจน์แท้ๆ ว่า ตอนที่ถ่ายทำเค้า จะขนดินมหาศาลเข้ามากลบ ถนน ให้เต็มบริเวณ ก็เลยได้ถึง บางอ้อ




9. ท้องพระโรง ฝ่ายในหงสาวดี 
     สวยอีกแล้ว งามวิจิตรไม่ผิดหวัง บรรจงสร้างไม่ต่างกับ ท้องพระโรงอื่นๆ ที่นี่เป็นฉากสำคัญ ของฝ่ายใน หงสาวดี หลายบทตอน ถ่ายทำที่นี่  ไม่ว่าจะเป็น ฉากพระสุพรรณกัลยาทาหน้าขาว เข้าถวายตัวกับ    บุเรงนอง ฉากพระเทพกษัตรี ที่ถูกชิงตัวมา ระหว่างเดินทางไป ถวายตัว ต่อพระเจ้าล้านช้าง สีสัตนาคนหุตร่มขาว ชักปิ่นปักผม มาแทงองค์ ปลิดชีพต่อหน้า บุเรงนอง จำได้ขึ้นใจกับวีรกรรม หญิงไทยใจกล้าหาญ ก็เป็นความสนุกในหนังเป็นความบันเทิง ที่อิ่มเอม
 
                                                 

                                                                     
                                                                                                                                                                                                                                                                     
10. โรงเก็บอุปกรณ์ประกอบฉาก
      ส่วนสนับสนุนสำคัญ อุปกรณ์ประกอบฉาก ที่ใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์ ทั้งหลายทั้งปวง เก็บอยู่ที่นี่ แสดงให้เห็นชัดๆ จับต้องได้ ทั้งอาวุธ เครื่องแต่งกาย รถม้า รถศึก อ่าง ไห กระโถน เยอะแยะ จัดวางบนชั้น ซึ่งจะต้องใช้อีกในการถ่ายทำ ภาคที่สาม ดังนั้น ทุกอย่างจึงอยู่ในสภาพ ที่สมบูรณ์ พร้อมใช้

แฟชั่น ทหารที่มาจาก ต่างเผ่า หลายพันธุ์ อันมีมากมาย ในยุคนั้น

11. จุดจำหน่ายสินค้าของที่ระลึก 
       ส่งท้าย ตามธรรมเนียม ที่ต้องมาเลือกซื้อ ของที่ระลึกติดมือกลับบ้าน นอกจาก DVD CD ภาพยนตร์ แล้ว ที่อยากแนะนำ ให้ซื้อไว้เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง คือ หนังสือ ที่ท่านมุ้ย หม่อมเจ้า ชาตรีเฉลิม ยุคล ทรงประพันธ์ ถึงเบื้องหลัง ของการตามรอยแกะหลักฐาน รวบรวมข้อมูล ด้วยความยากเข็ญ ในอันที่จะประมวล ให้ภาพยนตร์เกิดเป็นรูปธรรม อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง จากทั้งหลักฐานบรรดามี ไม่ว่าจะเป็นเอกสารการวิเคราะห์ อ้างอิงของนักวิชาการ หลากหลายสาขา รวมทั้งการเดินทางตามรอย เข้าถึง ที่เกิดเหตุ อ่านสนุกมีสาระวางกันไม่ลงทีเดียว หรือ จะเลือกซื้อเป็น สารคดีที่ทำได้ละเมียดละมัย สร้างความเข้าใจ ก่อนดูภาพยนตร์ ราคาก็ไม่แพง เพราะวางขายเท่าราคาท้องตลาด ... ห้ามพลาด เด็ดขาด ....
วันนี้การเข้าชมโรงถ่ายภาพยนตร์ ... ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช... เป็นเรื่องที่ Hot !
 ...... Hot ! เพราะเป็นของใหม่ และ
 ...... Hot ! เพราะร้อนจริงๆ

     แสงแดดที่แผดเผา ณ เมืองกาญจนบุรี ดูเหมือน จะร้อนแรง กว่าแสงแดดที่เมืองไหนๆ ในประเทศไทย แต่อรรถรส จากการชม และ ความอลังการ ตื่นตา ที่รออยู่ข้างหน้า จะมีแรงดึงดูด มากกว่าอุปสรรค บรรดามี
 ดั้งนั้น  กฎของการเข้าชมสำหรับเตือนตัวเองมี 2 ข้อ คือ .... หนึ่งห้ามบ่น ว่าร้อน และ .....สอง ห้ามบ่น ว่าร้อน เตรียม หมวก ร่ม พัด และอุปกรณ์กันแดด ไว้ให้พร้อม เข้าไปรับรู้ ร่วมความรู้สึก กับ นักแสดง ทั้งหลาย ว่าเค้าแต่งตัวกันเต็มยศ ยืนกลางแดด เพื่อรอ คำว่า แอ๊คชั่น มันเป็นอย่างไร ...บางที่ก็อาจจะซึ้งใจได้ว่า....
........ ศึกหงสาก็หนักหนาเช่นนี้.......แล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น